วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ดอยม่อนจอง

ดอยม่อนจอง

       ดอยม่อนจองตั้งอยู่ที่ตำบลอมก๋อย อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย ซึ่งครอบคลุมพื้นที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ และ อำเภอสามเงา จังหวัดตาก คำว่า ม่อน เป็นภาษาคำเมืองที่หมายถึง ดอยหรือเนินเขา ส่วนคำว่า จอง ก็เป็นภาษาคำเมืองจะออกเสียงว่า จ๋อง หมายถึง ลักษณะจั่ว สามเหลี่ยมที่อยู่สูงที่สุด ดอยม่อนจอง ติดอันดับ 1 ใน 10 ของยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย โดยจุดสูงสุดของ ดอยม่อนจอง มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,929 เมตร มีชื่อเรียกว่า หัวสิงห์ เพราะมีลักษณะคล้ายหัวสิงโต ในอดีตดอยม่อนจองนับเป็นดินแดน แห่งสรรพสัตว์ที่ใช้ชีวิตอาศัยอยู่อย่างอิสรเสรี เช่นกวางผา หรือ ม้าเทวดาและเลียงผารวมทั้งโขลงช้างป่า แต่ปัจจุบันยังมีอยู่แต่หาชมได้ยากมาก  สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาที่นี่ก็คือการได้ชมภูเขาสูงสลับซับซ้อนซึ่งทุ่งหญ้าจะเปลี่ยนเป็นสีทองสวยงามในช่วงหน้าหนาว ดอยม่อนจองยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงามมากอีกด้วย




    นอกจากนี้จุดเด่นที่สำคัญของดอยม่อนจองก็คือ ดอกกุหลาบพันปี ซึ่งจะบานในช่วงเดือน ธ.ค.-ม.ค. ว่ากันว่าต้นนี้เป็นต้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คุณยังจะได้ชมนกหายาก ได้แก่ เหยี่ยวนกเขาท้องขาว นกอินทรีแถบปีกดำ นกอินทรีเล็ก นกเปล้าท้องขาว นกมุ่นรกคอแดง นกเดินดงคอดำ เป็นต้น



     ดอยม่อนจองเปิดให้ท่องเที่ยวในช่วงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึง15 กุมภาพันธ์ หลังจากนั้นจะปิด ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นเพราะต้องระวังภัยเรื่องช้างป่าที่ออกมาหากิน รวมถึงสภาพอากาศที่แห้งซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า



สำหรับเวลาในการเดินทางขึ้นดอยม่อนจองสามารถไปเช้าเย็นกลับได้ แต่หากเดินแบบไม่เหนื่อยเกินไปนักควรใช้เวลา 2 วัน 1 คืน ก่อนเดินขึ้นดอยต้องติดต่อขออนุญาตจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย หน่วยมูเซอซึ่งเป็นที่ตั้งที่ทำการเขตรักษาพันธุ์ฯ โดยสามารถเดินทางมาที่ดอยม่อนจองได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่โทร. 0 5324 8604 หรือ 0 5324 8607


    การเดินทาง ไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย (หน่วยมูเซอ) จากเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 แล้วแยกซ้ายจากอำเภอฮอดเข้าทางหลวงหมายเลข 1099 ไปจนถึงตัวอำเภออมก๋อย และตรงต่อไปตามทางหลวง 1099 ประมาณ 40 กิโลเมตร จะพบหน่วยมูเซออยู่ทางด้านซ้ายมือ จากหน่วยฯไปยังจุดเริ่มเดินอีกประมาณ 16 กิโลเมตร ทางในช่วงนี้จำเป็นต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อและคนขับที่มีความชำนาญเป็นอย่างมาก เนื่องจากสภาพทางเป็นลูกรัง และแคบคดเคี้ยวริมผา  สำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง จากอำเภอเมืองเชียงใหม่สามารถขึ้นรถได้ที่คิวรถประตูช้างเผือก มายังอมก๋อย รถจะออกประมาณ 08.00 น. ผู้สนใจสามารถติดต่อเช่ารถรับ-ส่ง ที่จุดเริ่มเดินที่ คุณเดช เสริมมติวงศ์ โทร. 0 5346 7109 ส่วนเสบียงข้าวของต่างๆ หาซื้อได้ที่ตัวอำเภออมก๋อย และค่าบริการลูกหาบต่อวันคนละ 150 บาท







.







ข้อมูลการติดต่อ
ชื่อ 
ดอยม่อนจอง ดอยม่อนจอง

ที่อยู่
ตำบลอมก๋อย อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่

เบอร์โทร 
0 5324 8604, 0 5324 8607















ขอบคุณข้อมูล :
http://thai.tourismthailand.org/%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7/%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%87--3958

ขอบคุณรูปภาพ :
www.paiduaykan.com/province
Shop Amazon Launchpad - Explore new and inspired products from startups

วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ปราสาทสัจธรรม ปราสาทไม้แกะสลักสุดตระการตา






นับเป็นสถาปัตยกรรมอีกชิ้นหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับของประเทศไทย สำหรับ "ปราสาทสัจธรรม" (Sanctuary of Truth) ปราสาทไม้แกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่จะงดงามสมคำร่ำลือขนาดไหนนั้น วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาเพื่อน ๆ ไปสัมผัสกัน...

          ปราสาทสัจธรรม ตั้งอยู่บริเวณอ่าววงพระจันทร์ แหลมราชเวช ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ในเนื้อที่ 80 ไร่ งดงามด้วย "สถาปัตยกรรมไม้ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก" ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่า "วังโบราณ" บ้างก็เรียกตามวัสดุของตัวอาคารว่า "ปราสาทไม้" แต่เจ้าของความคิดและผู้ดำเนินการก่อสร้าง คือ คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ (ผู้ก่อตั้งเมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ) เรียกอาคารแห่งนี้ว่า "ปราสาทสัจธรรม" 



         ปราสาทสัจธรรม เริ่มก่อสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2524 จวบจนปัจจุบันก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ตัวปราสาทสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ไม่มีโลหะหรือปูนเข้ามาปะปน ยกเว้นส่วนฐานที่เป็นคอนกรีต มีการใช้ระบบเข้าเดือยไม้แบบไทย หรือใส่สลักไม้ตามภูมิปัญญาโบราณ ตัวปราสาทเป็นทรงจตุรมุข สูง 100 เมตร กว้าง 100 เมตร แกะสลักลวดลายอย่างวิจิตรพิสดาร ทั้งภายนอกและภายใน กล่าวกันว่างามดั่งเทพนฤมิต สะท้อนแนวคิดนามธรรมออกมาตีแผ่เป็นรูปธรรมให้สัมผัสได้ สื่อถึงความสำคัญของศาสนาและปรัชญาตะวันออก


อีกทั้งยังเป็นปราสาทที่ช่อฟ้าไม่เป็นรูปพญานาคที่เคยเห็นแบบทั่วไป หากแต่เป็นช่อฟ้าที่เป็นรูปมนุษย์ที่มีศีลธรรมอันดี เหมือนนางฟ้าหรือเทพเจ้า ทำให้ปราสาทไม้ที่ตั้งอยู่บนปลายแหลมราชเวชแห่งนี้ เปรียบเสมือนปราสาทบนสรวงสวรรค์ที่ตั้งอยู่บนพื้นดิน นอกจากนี้ ด้านในอันประกอบไปด้วยห้องจัตุรมุข 4 ห้องและห้องโถงบริเวณตรงกลางปราสาท ล้วนแล้วแต่สลักลวดลายอันวิจิตรเพื่อเล่าถึงวิวัฒนาการ การเกิดโลก การเกิดมวลมนุษย์ การเกิดศาสนา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งประกอบไปด้วยปรัชญาและความเชื่อจากหลายชนชาติและศาสนา เช่น พราหมณ์ ฮินดู พุทธ เพื่อสะท้อนความคิด วิถีทัศน์ โลกทัศน์ ภูมิปัญญาในแหล่งอารยธรรมตะวันออก ประกาศให้โลกเห็นถึงความลึกซึ้งสมบูรณ์ในด้านจิตวิญญาณที่มีมาช้านาน

          "เวลาที่คนที่เข้ามาเยี่ยมชมจะเห็นการต่อเติมอยู่ตลอดเวลา เพราะเราทำไปแก้ไขไป งานไม้นั้นทำได้ยากและต้องใช้เวลา คนทั่วไปอาจจะคิดว่า 27 ปีแล้วทำไมยังไม่เสร็จอีก แต่ถ้าเราได้ไปเที่ยวปราสาทราชวัง หรือสถานที่ต่าง ๆ ที่สร้างเสร็จแล้ว เราก็ทึ่งว่าโอ้โหเขาทำกันได้ยังไง แต่เราไม่เคยได้ไปอยู่ในสมัยนั้น ซึ่งในส่วนของปราสาทสัจธรรมนั้น คนไทยสามารถมีส่วนร่วมในการสร้าง ได้มีส่วนในการอนุรักษ์และเข้ามาเยี่ยมชมว่าสิ่งเหล่านี้คือตัวตนของประเทศไทยในอดีต ไม่ใช่ตึกอาคารที่เราเห็นในทุกวันนี้" ยศธร หนองคูน้อย ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการปราสาทไม้อรรถาธิบาย


   
   ทั้งนี้ ปราสาทสัจธรรมแห่งนี้ คือ ที่หมายให้มวลมนุษย์มาชุมนุม เพื่อจะได้ตระหนักถึงสิ่งก่อกำเนิดทั้ง 7 และคุณธรรมข้อประพฤติปฏิบัติทั้ง 4 ที่จะทำให้โลกในอุดมคติเกิดขึ้นจริงแม้เป็นโลกเล็ก ๆ เฉพาะตัวบุคคลหรือโลกทั้งมวล อย่างไรก็ตาม วิถีทางที่มนุษย์จะไปให้ถึงโลกแห่งอุดมคตินั้น ย่อมต้องมีอุปสรรคขวากหนาม จึงมีการต่อสู้กันระหว่างธรรมกับอธรรม ความดี-ความชั่ว จิตใจฝ่ายสูง-ฝ่ายต่ำ ซึ่งผู้สร้างได้แสดงผ่านงานแกะจำหลักไม้ เรื่องมหากาพย์ที่ยิ่งใหญ่ของชาวตะวันออก คือ มหากาพย์รามายณะ และมหากาพย์ภารตยุทธ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ และชี้แนะให้มนุษย์ชำระล้างกิเลสตัณหาในตัวให้ดับสิ้นไป ทั้งนี้ เพราะไม่มีชัยชนะใดจะยิ่งใหญ่ไปกว่าการชนะใจตนเอง

          นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมหลายอย่างที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง เช่น การแสดงความสามารถของโลมา การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย ทั้งรำไทย ฟันดาบ และมวยไทย การขับรถ ATV นั่งรถม้า นั่งช้างชมปราสาท หรือจะนั่งเรือออกไปจากชายหาดเพื่อมองย้อนกลับมาที่ปราสาทก็ได้ 





การเดินทาง

          ทางเข้าปราสาทสัจธรรมอยู่บริเวณซอยนาเกลือ 12 ตรงเข้าไปจนเกือบสุดซอย มีซุ้มประตูขนาดใหญ่ของปราสาทสัจธรรมอยู่ทางขวามือ (ห่างจากพัทยาใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร)


 เวลาทำการ : 08.00-17.00 น. ทุกวัน
 ค่าเข้าชม :  ผู้ใหญ่ ราคา 450 บาท, เด็ก (ความสูงระหว่าง 110-140 เซนติเมตร) ราคา 225บาท

 ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-3836-7815, 0-3836-7229, 
  0-3822-5407 และเว็บไซต์  www.sanctuaryoftruth.com













ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซค์ http://travel.kapook.com/view47803.html
และรูปภาพจากเว็บไซค์  sanctuaryoftruth.com
Shop Amazon Launchpad - Explore new and inspired products from startups

วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

วัดป่าภูก้อน


วัดป่าภูก้อน

       วัดป่าภูก้อน เกิดจากความดำริของพุทธบริษัทผู้ตระหนักถึงคุณค่าอันยิ่งใหญ่ และความสำคัญของป่าไม้ธรรมชาติที่เหลือน้อยลงทุกวัน โดยมุ่งดำเนินตามรอยพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการรักษาความสมบูรณ์ของป่าไม้ต้นน้ำลำธาร ตลอดจนสัตว์ป่า และพรรณไม้นานาพันธุ์ เพื่อให้เป็นมรดกของลูกหลานไทยคู่กับแผ่นดินไทย พร้อมทั้ง เพื่อจรรโลงส่งเสริมพระบวรพุทธศาสนาให้เจริญมั่งคง คู่แผ่นดินไทยตราบชั่วกาลนาน


การก่อสร้างวัดป่าภูก้อนได้เริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๗ โดยการริเริ่มของครอบครัวนายโอฬาร และนางปิยวรรณ วีรวรรณ และโดยการเมตตาอนุเคราะห์ให้คำแนะนำปรึกษา ของพระเถราจารย์ฝ่ายวิปัสสนาธุระในภูมิภาคอิสานหลายองค์ ตลอดจนความร่วมมือร่วมใจของพุทธบริษัทหลายฝ่าย การก่อสร้างได้สำเร็จลุล่วงในเดือนมีนาคม ปี พ.ศ.๒๕๓๙ งบการก่อสร้างรวม ๗๑ ล้านบาท...


วัดป่าภูก้อนเป็นวัดในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูง - น้ำโสม บ้านนาคำ ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี เป็นวัดที่ถูกต้องตามระเบียบกรมการศาสนาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๐ และได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ให้เข้าทำประโยชน์ เพื่อจัดตั้งพุทธอุทยาน มีเนื้อที่ ๑,๐๐๐ ไร่ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๑ ได้รับขนานนามว่า "พุทธอุทยานมหารุกขปาริชาติ" โดยมีท่านพระครูจิตตภาวนาญาณ (ชาลี ถิรธมฺโม) เป็นเจ้าอาวาสและเจ้าคณะอำเภอนายูง (ธ)


     
วัดป่าภูก้อน

บ้านนาคำ ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี
โทรศัพท์และโทรสาร : (๐๔๒) ๒๘๑ - ๐๔๕

Shop Amazon Launchpad - Explore new and inspired products from startups